RANDOM POST

Home » ดูหนังออนไลน์ » » "อาชาบำบัด" พัฒนาบุคลิกภาพกลุ่มเด็กพิเศษ

"อาชาบำบัด" พัฒนาบุคลิกภาพกลุ่มเด็กพิเศษ

Written By Unknown on วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556 | 19:52


หากจะกล่าวถึงเด็กพิเศษหลาย ๆ คนอาจจะรู้จัก และอีกหลาย ๆ คนบ้างก็อาจจะยังไม่รู้จัก กับคำว่า "เด็กพิเศษ" ซึ่งในวันนี้จะพาท่านผู้อ่านได้รู้จักกับ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 7  ซึ่งตั้งอยู่บนเลขที่ 264 หมู่ที่ 8 ตำบลท่าทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยได้จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 ซึ่งจัดการศึกษาในลักษณะศูนย์การให้บริการ ช่วยเหลือระยะแรกเริ่มและเตรียมความพร้อมให้กับเด็กที่เกิดมาแล้วมีความพิการทางร่างกาย และมีความต้องการพิเศษทุกประเภท รวมถึงการสนับสนุน สิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา การวิจัยและการจัดครูเดินสอนแก่เด็กพิการในเขตพื้นที่ของการให้บริการ
ทั้งนี้จากการที่ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 7 ได้นำโครงการ "อาชาบำบัด" เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาด้านการควบคุม การทรงตัวการเครื่องไหวอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่ง อาชา เราก็ทราบกันดีว่าเป็นสรรพนาม ที่ใช้แทน "ม้า" นั่นเอง ส่วนคำว่า "บำบัด" นั้นก็คือการให้เด็กพิเศษได้ขึ้นไปขี่บนหลังม้าซึ่งช่วยในเรื่องของการทรงตัวเสริมสร้างสรีระการนั่งที่เป็นสง่ามากขึ้น และยังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
เช่นเดียวกับการกายภาพบำบัดในผู้ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยเฉพาะเด็กพิเศษที่อวัยวะส่วนแขน ขา ฯลฯ อ่อนแรง ซึ่ง "อาชาบำบัด" ยังสามารถช่วยให้เด็กพิเศษประเภท ไฮเปอร์ ซึ่งไม่ค่อยที่จะอยู่นิ่ง ๆ ได้เป็นเวลานาน ก็สามารถช่วยพัฒนาให้กลุ่มเด็กไฮเปอร์ มีความนิ่งมากขึ้น และซึ่งในปัจจุบันทาง ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 7 มีม้าทั้งหมดจำนวน 3 ตัวแล้ว จากจำนวนเด็กพิเศษกว่า 40 คนนั้น ทำให้ต้องจัดตารางการขี่หลังม้าให้กับเด็กทุกคนได้บำบัดโดย "อาชาบำบัด" ครบทุกคนภายใน 1 สัปดาห์ แต่ละวันจะมีการขี่ม้าวันละ 1 รอบ รอบละประมาณ 10 นาที ส่วนเรื่องความปลอดภัยในตัวเด็กนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลใด ๆ เนื่องจากจะมีครูถึงสอง คนในการควบคุมม้าและดูแลพาเด็กนั่งบนหลังม้าเดินไปรอบ ๆ
ด้าน นายนพพล เล็กพันธุ์ อาจารย์ดูแลควบคุมอาชา กล่าวว่า จากการที่ทางศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 7 ได้นำโครงการ  "อาชาบำบัด" หรือการนำม้ามาช่วยในการบำบัดและพัฒนาเด็กออทิสติกหรือเด็กพิเศษ ได้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี หลังจากที่ได้เดินทางไปดูงานเรื่องการใช้ "อาชาบำบัด" และ ศึกษางานวิจัยที่สนับสนุนให้เห็นถึงผลดีของ "อาชาบำบัด" ซึ่งเป็นการบำบัดและพัฒนาได้ผลดีกับเด็กพิเศษหลาย ๆ กลุ่ม ทั้งความผิดปกติด้านระบบการ เคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น โรคสมองพิการ เด็กออทิสติก ที่มีปัญหาทางด้านการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน เพราะการทรงตัวนั่งบนหลังม้านั้นเป็นการพัฒนาอวัยวะของร่างกายได้เกือบทุกส่วน เสริมให้เด็กมีการทรงตัวที่ดีขึ้น มีสัมผัสที่แนบแน่นกับตัวม้า คือขาต้องหนีบไว้ข้างลำตัวม้าตลอด และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขี่ม้า ซึ่งผลของ "อาชาบำบัด" นี้จะเป็นการเพิ่มทักษะได้มากขึ้นจากการขี่ม้าโดยอัตโนมัติ  ซึ่งจังหวะการก้าวย่างของม้านั้นมีความใกล้เคียงกับจังหวะการก้าวเดินของมนุษย์มากที่สุด และเมื่อเด็กพิเศษได้นั่งบนหลังม้า ก็เปรียบเสมือนกับการได้ฝึกเดินด้วยตัวเอง
ด้าน นางศิรินาถ  ยิ้มประดิษฐ์  อายุ  39 ปี แม่ของ ด.ญ.รวิศรา ยิ้มประดิษฐ์ หรือ น้องปาร์ตี้ อายุ 6 ขวบ หนึ่งในเด็กที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า  หลังจากที่น้องเข้าร่วมโครงการ "อาชาบำบัด" ทำให้เห็นพัฒนาการของลูกสาวดีขึ้น คือน้องจะมีสมาธิมากขึ้น และการเคลื่อนไหวร่างกายรวมถึงการทรงตัวก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งน้องยังชอบ สนุกและมีความสุขที่ได้ขี่ม้าอีกด้วย
และนี่เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ปกครอง ที่จะใช้วิธีอาชาบำบัดบุตรหลานที่ประสบปัญหาทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจ


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  โดย จีรศักดิ์ ปิ่นทอง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.